Original titles (Thai script):
ธรรมตำนานเมืองช้างแส่น, ตำนานเชียงแสน, “ตำนานนิทานเมืองโยนกนครราชธานีชัยบุรีศรีเชียงแสน, ตำนานเมืองโยนกนครราชธานีชัยบุรีศรีเชียงแสน, ตำนานเชียงแสน” [phuk 3], ตำนานเชียงแสน, ผูกถ้วน 4
Scribe Thai script:
Phuk 1: หนานพิมพิสารอาจารย์. Phuk 2: ศรัทธาหนานพิมสาร. Phuk 3: หนานกาวิไชย อยู่บ้านท่าต้นหาด [หมู่ 8 บ้านท่าต้นหาด ต.ศรีถ้อย อ. แม่ใจ จ. พะเยา]. Phuk 4: สามเณรผัด.
Donator / sponsor (Thai script):
หนานพิมพิสารอาจารย์ พร้อมด้วยภริยา ลูกเต้าทุกๆ คน สร้างเพื่อค้ำชูหนานไชยสล่า
Calendar Thai script:
Phuk 1: พ.ศ. 2473 ปีกดสะง้า เดือน 4 เพ็ง วัน 7 [เสาร์] ไทยเปิกสี ยามแถใกล้เที่ยงวัน.
Phuk 2: จุลศักราช 1292 ตัว [พ.ศ. 2473] ปีกดสะง้า เดือนยี่ แรม 4 ค่ำ วัน 3 [อังคาร] ยามกลองงาย. Phuk 3: พ.ศ. 2493 ปีกดสะง้า เดือน 2 แรม 4 ค่ำ วัน 1[อาทิตย์] ยามตะวันแถขึ้นจักใกล้เที่ยง.
Original repository (Thai script) / scribe place:
Beginning and end:
Phuk 1: a. นมามิ รตนตฺตยํ สพฺพํ โทสํ ข(มา)มิหํ อหํ อันว่าข้า นมามิ ก็ไหว้แล้ว รตนตฺตยํ ยังพระไตรรัตนะแก้วเจ้าทั้ง 3 แล้ว
สพฺพทุกฺขโรคาภยา วินาสนฺตุ ขอหื้อพ้นจากทุกข์โทษอันตรายทั้งมวลแด่เทอะ ทีนี้ จักกล่าวตำนานตั้งแต่โพธิสัตว์เจ้า
แห่งเราได้เป็นมหากษัตริย์เจ้า มีชื่อว่ามหาสมันตราชปฐม เสวยเมืองพาราณสีเป็นเค้ากว่ามหานครรัฐทั้งหลายแล ตั้งแต่
มหาสมันตราชลำดับมารอดพระยาโอกากราช…
z. …แล้วก็บูชาด้วยบุปผาลาชาข้าวตอก ดอกไม้เงิน ดอกไม้คำ ช่อทุง ฉัตรจ้องปกกางบูชามากนัก แล้วก็เอาสกุลเสนาโยธา
แหนแห่พระมหาธาตุเจ้าออกจากเวียงโยนกนครราชธานีชัยบุรีศรีช้างแส่นที่นี้แล้ว ก็หามพระมหาธาตุเจ้าขึ้นไปสู่จอดดอย
ตายทิสะคือว่า ดอยดินแดง นั้นพร้อมกับด้วยมหากัสสปเถรเจ้าเป็นประธาน ครั้นว่ารอดจอมดอยแล้วพระมหากัสสปเถรเจ้า
ก็ยกเอาโกศมหาธาตุเจ้าขึ้นตั้งไว้เหนือหินก้อนอันพระพุทธเจ้านั่งก่อนนั้นแล้ว…
Phuk 2: a. นมิตฺวา สิรสา นาถํ ปญฺจรตนตฺยํ ปญฺจพุทฺธา นมามิ ขมามิหํ สาธุ วกฺขามิ อิมสฺมึ ภทฺทกปฺเป จตุพุทฺธา พุชฺฌิตฺวา
กกุสนฺโธ โกนาคมโน กสฺสปฺโป โคตโม มิถิลายํ ราชคเห จรติ ปิณฺฑาย ราชคเหตฺวา อิมสฺมึ คูหานมฆตฺตกํ สุวณฺณโคม-
ปเทสํ ฐาเน นิสีทิ สิริสุปวรมงฺคโล ตโมฬาร กถามุนีราชศาสตราอันนี้ไซร้เป็นที่ตั้งไว้เคารพน้อมไหว้ยำแยง บูชาคารวะ
แก่นรานระ เทวะ อินทา พรหม จตุโลกัปปาลา อสุราสุระ ครุฑา ภุชังคะ ขัตติยราช สมณพราหมณ์เจ้าทั้งหลาย…
z. …ข้าวตอกดอกไม้ ลำเทียนประทีษ น้ำมันสีสายทั้งมวลได้ แล้วก็มากั้นปกยังเสาค้างโคมคำขึ้นอยังอยายไว้ตามริมท่า
แม่น้ำขรนทีที่หน้าบ้านแห่งตน แล้วก็เจาะตามน้ำมันสีสายประทีปโคมไฟ แล้วก็ถวายบุปผาลาชาดวงดอกข้าวตอกดอกไม้
หว่านไหว้บูชายังพระติไตรรัตนะแก้วเจ้าทั้ง 3 ประการมีสัพพัญญูพระพุทธเจ้าเป็นประธาน แล้วก็ตั้งคำปรารถนาตั้งสัจจะ
อธิษฐานว่า ด้วยเดชอันผู้ข้าทั้งหลายได้สักการบูชายังพระไตรรัตนะแก้วเจ้าทั้ง 3 ประการ มีศรีสัพพัญญูพระพุทธเจ้า…
Phuk 3: a. มหากัสสปเถรเจ้าก็อธิษฐานขอหื้อมหาธาตุเจ้ามุดจมลงในหินก้อนนั้นแล ยามนั้นพระมหาชินธาตุเจ้าก็ผายปาฏิหาริย์
หื้อแจ้งทั่วเมืองโยนทั้งมวลนาน 7 วัน 7 คืน แล้วก็พาโกศจมลงไปในก้อนหินลึกประมาณ 8 ศอกหั้นแล ยามนั้นพระมหา
กัสสปเถรเจ้าก็อธิษฐานคันทุงบูชามหาธาตุเจ้าไว้หนขวาเมือขึ้นนั้น ทะกางสูง 1 พันวา ทุงยาว 7 พันวา กว้าง 5 ร้อยวา
แล แต่นั้นมา คนทั้งหลายหันแล้วจึงเรียกว่าดอยทุง แต่นั้นมาแล…
z. …บ่มีใจใสศรัทธาละแก้วเจ้าทั้ง 3 ประการ ศาสนาเป็นอันหม่นหมองบ่รุ่งเรืองแล กล่าวห้องตำนานนิทานเมืองโยนกนคร
ราชธานีชัยบุรีศรีเชียงแสนทั้งมวล ตั้งแต่ปฐมมูลสิงหนติราชกุมารลุกเมืองราชคหนครหลวงไทยเทศมาตั้งหื้อเป็นเมือง
พันธุสิงหนตินคร ต่อเท่ารอดพระพุทธเจ้าแห่งเราได้ดำรัสตรัสประหญาสัพพัญญูแล้ว เสด็จมาโปรดแล้วลวดกลายเป็น
เมืองโยนกนครชัยบุรีศรีช้างแส่น ต่อเท่ามาตั้งเป็นเวียงเปิกสาแล้วอยู่มาได้ 93 ปีนี้แล…
Phuk 4: a. สูอย่าได้เอาข้าวกูไปใส่บาตรหื้อมันเนอว่าอั้น เมื่อนั้น เจ้าสามเณรน้อยตนนั้นได้ยินคำพระยาขอมดำนั้น แล้วก็บังเกิด
อิจฉา มานะ โกธะในใจแล้วก็ถอยหนีจากคุ้มพระยาขอม แล้วก็ออกเวียงไปหนวันตกช้วยเหนือแล้วขึ้นสู่ดอยกู่แก้ว แล้วก็
กระทำประทักษิณไหว้มหาธาตุเจ้า แล้วก็เจาะบาตรใส่หัว แล้วก็ถวายหื้อเป็นทานทั้งบาตรแลทั้งข้าวนั้นแก่มหาธาตุเจ้า
แล้วก็ตั้งคำปรารถนาว่า ตั้งแต่นี้ไป 7 วันภายหน้านี้ ขอหื้อข้านี้ได้จุติตายจากชาติอันเป็นสามเณรนี้แล้ว…
z. …ขุนสุทธะกินต่อไปได้ 5 ปี ศักราชได้ 557 ตัวปีก็จุติตายไปแล้ว ขุนสุขะกินแทนได้ 2 ปีมารอดศักราชได้ 559 ตัวปีเปิก
เส็ดนี้ ทั้งมวลได้ 11 เช่นขุนกินเมือ(ง)แล ตั้งแต่ศักราชได้ 476 ตัวปี ศาสนาพระพุทธเจ้าล่วงไปแล้วได้ 1110 พระวัสสา
นั้นมาต่อเท่ารอดศักราชได้ 559 ตัวนี้ ชาติเชื้อขัตติยราชวงศามหากษัตริยเจ้าอันเสวยราชสมบัติในเมืองโยนกนครราช-
ธานีชัยบุรีศรีช้างแส่นที่นี้ แต่เช่นสิงหนติราชปฐมลำดับลำดามานั้นก็สุดเสี้ยงเสียแล้วแล บัดนี้เท่ามีแต่